ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๑๓)
เรื่อง
กำหนดวิธีการ และเงื่อนไข
เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อม
ที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
---------------------------------
http://www.rd.go.th/publish/33067.0.html
อาศัย
อำนาจตามความในวรรคสอง ของมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๒๘) พ.ศ.
๒๕๕๔
อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดวิธีการและเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับ
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด
เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑
การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ต้องเป็นไปตามวิธีการ
และเงื่อนไข ดังนี้
(๑)
ต้องเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด มูลค่าไม่เกินห้าล้านบาท เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย
ทั้งนี้
ไม่รวมถึงการทำสัญญาซื้อขายที่ดินและทำสัญญาจ้างปลูกสร้างอาคารแยกจากกัน
อสังหาริมทรัพย์ตามวรรคหนึ่งต้องไม่เคยผ่านการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์มาก่อน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
(๒) การใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้
ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้เท่าจำนวนเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์
จริง แต่ไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด
(๓)
ต้องเป็นการจ่ายค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด ที่จ่ายไปในระหว่างวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
และต้องมีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นให้แล้วเสร็จภายใน
ช่วงเวลาดังกล่าว
(๔)
ผู้มีเงินได้ต้องใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ครั้งแรกภายในห้าปีภาษี
นับแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แล้ว
และต้องใช้สิทธิเป็นเวลาห้าปีภาษีต่อเนื่องกัน
โดยให้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปี
(๕)
กรณีผู้มีเงินได้หลายคนร่วมกันซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด
ให้ได้รับยกเว้นภาษีทุกคนโดยเฉลี่ยการได้รับยกเว้นภาษีตามส่วนของกรรมสิทธิ์
ของแต่ละคน
แต่รวมกันทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินจำนวนเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริม
ทรัพย์จริง
และไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด
(๖)
กรณีผู้มีเงินได้มีสามีหรือภริยา
ให้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้จากการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อม
ที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยได้เพียงแห่งเดียว
(๗) กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้
และความเป็นสามีภริยาได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษี
ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ดังนี้
(ก) กรณีภริยาไม่ใช้สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีตามมาตรา
๕๗ เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร
ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้รวมกันเท่าจำนวนเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริม
ทรัพย์จริง
แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคาร
พร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด
(ข) กรณีภริยาใช้สิทธิแยกยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากสามีตามมาตรา ๕๗
เบญจ แห่งประมวลรัษฎากร
ให้สามีและภริยาต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีเงินได้กึ่งหนึ่งของจำนวนเงิน
ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์จริง
แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคาร
พร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด ทั้งนี้
การใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ครั้งแรกของสามีและภริยา
จะต้องกระทำในปีภาษีเดียวกัน
(ค)
กรณีสามีและภริยาต่างฝ่ายต่างมีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้อยู่ก่อนแล้ว
ให้สามีและภริยาได้รับยกเว้นภาษีเงินได้รวมกันไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่า
อสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด
เพียงแห่งเดียว
(๘)
กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้
และความเป็นสามีภริยามิได้มีอยู่ตลอดปีภาษีที่ได้รับยกเว้นภาษี
ซึ่งต้องยื่นรายการและเสียภาษีต่างหากจากกัน
ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ดังนี้
(ก)
กรณีผู้มีเงินได้มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้อยู่ก่อนแล้ว
ให้สามีและภริยาซึ่งเป็นผู้มีเงินได้ต่างฝ่ายต่างยังคงได้รับยกเว้นภาษีเงิน
ได้เท่าจำนวนเงินที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์จริง
แต่ไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด
(ข)
กรณีผู้มีเงินได้สมรสกัน ต่อมามีสิทธิได้รับยกเว้นภาษี
ให้สามีและภริยาต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีเงินได้กึ่งหนึ่งของจำนวนเงิน
ที่จ่ายเป็นค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์จริง
แต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินร้อยละสิบของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคาร
พร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุด
(๙)
ผู้มีเงินได้ต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
มาก่อน
หรือไม่มีชื่อเป็นหรือเคยเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้านที่ใช้เป็นหลักฐาน
เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของตนเองหรือคู่สมรสตาม
ทะเบียนบ้าน
(๑๐)
กรณีการกู้ยืมเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน
โดยผู้กู้ร่วมมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยของตนเอง
หรือเคยใช้สิทธิหักลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีมาแล้ว
ผู้กู้ร่วมจะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีในส่วนของเงินได้ที่ใช้กู้ร่วม
ข้อ ๒ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานประกอบการยกเว้นภาษีเงินได้ ดังนี้
(๑) หนังสือรับรองจากผู้ขายที่พิสูจน์ได้ว่า
มีการจ่ายค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์
โดยต้องมีข้อความอย่างน้อยตามที่แนบท้ายประกาศนี้
(๒) หนังสือรับรองตนเองว่าเป็นที่อยู่อาศัยแห่งแรก โดยต้องมีข้อความอย่างน้อยตามที่แนบท้ายประกาศนี้
(๓) สำเนาสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์
(๔) สำเนาสัญญากู้ยืมเงิน (กรณีกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงิน)
ข้อ ๓
ผู้มีเงินได้ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็น
เวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ใน
อสังหาริมทรัพย์ หรือมีชื่อเป็นคู่สัญญากับสถาบันการเงินที่ให้กู้
เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปี
แต่ไม่รวมถึงกรณีผู้มีเงินได้ถึงแก่ความตาย หรือกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย
ข้อ ๔ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้
ให้ผู้มีเงินได้นำเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปหักจากภาษีที่ต้องชำระจากการ
คำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามมาตรา ๔๘ (๑) และ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
ก่อนการคำนวณเครดิตภาษี
กรณีผู้มีเงินได้มีภาษีที่ต้องชำระน้อยกว่าจำนวนค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่
ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ในแต่ละปีภาษี
ผู้มีเงินได้ไม่มีสิทธิได้รับคืนเงินภาษีจากส่วนต่างดังกล่าว
ข้อ ๕
กรณีผู้มีเงินได้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน
หรือห้องชุดในอาคารชุด และได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้แล้ว
และต่อมาปฏิบัติไม่เป็นไปตามวิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด
ผู้มีเงินได้หมดสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
และต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับปีภาษีที่นำเงินค่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่เป็น
อาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคารชุดไปหักออกจากภาษีที่ต้องชำระมาแล้ว
พร้อมเงินเพิ่ม ตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
สาธิต รังคสิริ
(นายสาธิต รังคสิริ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น