เดิมทีการจองชื่อนิติบุคคล
สามารถยื่นคำร้องขอจองชื่อผ่านหน่วยงานของกรม กระทรวงพาณิชย์ โดยกรอกใบคำขอ
“แบบจองชื่อนิติบุคคล” แล้วนายทะเบียนก็จะทำการลงทะเบียนจองชื่อให้ต่อไป
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 14/01/2556 เป็นต้นไป
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ปรับปรุงระบบการจองชื่อและเพื่อให้มีการแจ้งผลได้รวดเร็วขึ้น
จึงปรับให้จองชื่อนิติบุคคลผ่านระบบอินเตอร์เพียงช่องทางเดียว
จากประสบการณ์ในจองชื่อบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ผ่านระบบอินเตอร์พบว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน ถึงจะทราบผลการอนุมัติ
ทั้งนี้นายทะเบียนจะต้องเป็นผู้สั่งอนุมัติชื่ออีกครั้ง
เนื่องจากระบบตรวจสอบชื่อยังไม่ละเอียดพอ เช่น กรณีสะกดคำไม่เหมือนกัน
ระบบก็จะมองว่าชื่อไม่ซ้ำกัน เช่น บางชื่อใส่ ร์ บางชื่อก็ไม่ใส่ เป็นต้น
ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 เป็นต้นไป กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้พัฒนาระบบการตรวจและจองชื่อนิติบุคคล โดยผู้ขอจดทะเบียนสามารถตรวจสอบชื่อที่ต้องการใช้ได้ด้วยตนเอง ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ก่อนทําการจองชื่อว่าชื่อที่ต้องการใช้เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกัน หรือคล้ายคลึงกับนิติบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อนแล้วหรือไม่ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ของกรมฯ จะประมวลผลและแสดงข้อมูลชื่นิติบุคคลที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับชื่อที่ต้องการตรวจ เพื่อให้พิจารณาและตัดสินใจเองว่าจะใช้ชื่อนั้นหรือไม่ และเมื่อตรวจสอบแล้วว่าชื่อดังกล่าวไม่เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกัน หรือคล้ายกับนิติบุคคลอื่น ให้ดําเนินการจองชื่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ นายทะเบียนจะตรวจสอบชื่อที่ขอจองอีกครั้งเฉพาะประเด็น ดังต่อไปนี้
- ชื่อที่ใช้คําที่ขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐหรือชื่อที่ใช้คําที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
- ชื่อที่ใช้ภาษาต่างประเทศมีความหมายหรือมีเสียงเรียกขานไม่ตรงกับชื่อภาษาไทย
- ชื่อที่ใช้คําหรือตัวอักษรไม่ถูกหลักภาษาไทย
หากชื่อที่ใช้เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกัน หรือคล้ายคลึงกับชื่อนิติบุคคลอื่น ผู้ขอจองชื่อ/ห้างหุ้นส่วน/บริษัทจํากัด ต้องรับผิดชอบในการใช้ชื่อนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 มาตรา 67 และมาตรา 1115 และต้องจดทะเบียนแก้ไขชื่อทันทีที่ทราบหรือควรทราบ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจองชื่อ ไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่หน่วยงานของกรม และมีการแจ้งผลการจองชื่อได้รวดเร็วขึ้น จึงได้ปรับช่องทางจองชื่อให้จองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพียงช่องทางเดียว
หมายเหตุ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 18 สิทธิของบุคคลในการที่จะใช้นามอันชอบที่จะใช้ได้นั้น ถ้ามีบุคคลอื่นโต้แย้งก็ดี หรือบุคคลผู้เป็นเจ้าของนามนั้นต้องเสื่อมเสียประโยชน์ เพราะการที่มีผู้อื่นมาใช้นามเดียวกันโดยมิได้รับอํานาจให้ใช้ได้ก็ดี บุคคลผู้เป็นเจ้าของนามจะเรียกให้บุคคลนั้นระงับความเสียหายก็ได้ ถ้าและเป็นที่พึงวิตกว่าจะต้องเสียหายอยู่สืบไป จะร้องขอต่อศาลให้สั่งห้ามก็ได้
มาตรา 66 นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น ภายในขอบแห่งอํานาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์ดังได้บัญญัติหรือกําหนดไว้ในกฎหมายข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้ง
มาตรา 67 ภายใต้บังคับมาตรา 66 นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา เว้นแต่สิทธิและหน้าที่ซึ่งโดยสภาพจะพึงมีพึงเป็นได้เฉพาะแก่บุคคลธรรมดาเท่านั้น
มาตรา 1115 ถ้าหากว่าชื่อบริษัทซึ่งตั้งไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิพ้องกับชื่อบริษัทอื่นซึ่งได้จดทะเบียนแล้วก็ดีหรือพ้องกับชื่อซึ่งตั้งไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิฉบับอื่นอันได้จดทะเบียนแล้วก็ดีหรือคล้ายคลึงกับชื่อเช่นกล่าวนั้นจนน่าจะลวงให้มหาชนหลงไปได้ก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้ที่มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะฟ้องเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เริ่มก่อการบริษัทก็ได้และจะร้องขอให้ศาลสั่งบังคับให้เปลี่ยนชื่อนั้นเสียใหม่ก็ได้
เมื่อศาลมีคําสั่งเช่นนั้นแล้ว ก็ต้องบอกชื่อซึ่งเปลี่ยนใหม่นั้นจดลงทะเบียนแทนชื่อเก่า และต้องแก้ใบสําคัญการจดทะเบียนด้วยตามกันไป
ที่มา .. ฝ่ายพิจารณาอนุญาตชื่อนิติบุคคล ส่วนบริหารการจดทะเบียน สํานักทะเบียนธุรกิจ โทร. 0 2547 4450 e–mail : nameit@dbd.go.th
ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2556 เป็นต้นไป กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้พัฒนาระบบการตรวจและจองชื่อนิติบุคคล โดยผู้ขอจดทะเบียนสามารถตรวจสอบชื่อที่ต้องการใช้ได้ด้วยตนเอง ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ก่อนทําการจองชื่อว่าชื่อที่ต้องการใช้เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกัน หรือคล้ายคลึงกับนิติบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อนแล้วหรือไม่ ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ของกรมฯ จะประมวลผลและแสดงข้อมูลชื่นิติบุคคลที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับชื่อที่ต้องการตรวจ เพื่อให้พิจารณาและตัดสินใจเองว่าจะใช้ชื่อนั้นหรือไม่ และเมื่อตรวจสอบแล้วว่าชื่อดังกล่าวไม่เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกัน หรือคล้ายกับนิติบุคคลอื่น ให้ดําเนินการจองชื่อผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ นายทะเบียนจะตรวจสอบชื่อที่ขอจองอีกครั้งเฉพาะประเด็น ดังต่อไปนี้
- ชื่อที่ใช้คําที่ขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐหรือชื่อที่ใช้คําที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
- ชื่อที่ใช้ภาษาต่างประเทศมีความหมายหรือมีเสียงเรียกขานไม่ตรงกับชื่อภาษาไทย
- ชื่อที่ใช้คําหรือตัวอักษรไม่ถูกหลักภาษาไทย
หากชื่อที่ใช้เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกัน หรือคล้ายคลึงกับชื่อนิติบุคคลอื่น ผู้ขอจองชื่อ/ห้างหุ้นส่วน/บริษัทจํากัด ต้องรับผิดชอบในการใช้ชื่อนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 18 มาตรา 67 และมาตรา 1115 และต้องจดทะเบียนแก้ไขชื่อทันทีที่ทราบหรือควรทราบ เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจองชื่อ ไม่ต้องเดินทางไปติดต่อที่หน่วยงานของกรม และมีการแจ้งผลการจองชื่อได้รวดเร็วขึ้น จึงได้ปรับช่องทางจองชื่อให้จองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพียงช่องทางเดียว
หมายเหตุ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 18 สิทธิของบุคคลในการที่จะใช้นามอันชอบที่จะใช้ได้นั้น ถ้ามีบุคคลอื่นโต้แย้งก็ดี หรือบุคคลผู้เป็นเจ้าของนามนั้นต้องเสื่อมเสียประโยชน์ เพราะการที่มีผู้อื่นมาใช้นามเดียวกันโดยมิได้รับอํานาจให้ใช้ได้ก็ดี บุคคลผู้เป็นเจ้าของนามจะเรียกให้บุคคลนั้นระงับความเสียหายก็ได้ ถ้าและเป็นที่พึงวิตกว่าจะต้องเสียหายอยู่สืบไป จะร้องขอต่อศาลให้สั่งห้ามก็ได้
มาตรา 66 นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น ภายในขอบแห่งอํานาจหน้าที่หรือวัตถุประสงค์ดังได้บัญญัติหรือกําหนดไว้ในกฎหมายข้อบังคับ หรือตราสารจัดตั้ง
มาตรา 67 ภายใต้บังคับมาตรา 66 นิติบุคคลย่อมมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับบุคคลธรรมดา เว้นแต่สิทธิและหน้าที่ซึ่งโดยสภาพจะพึงมีพึงเป็นได้เฉพาะแก่บุคคลธรรมดาเท่านั้น
มาตรา 1115 ถ้าหากว่าชื่อบริษัทซึ่งตั้งไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิพ้องกับชื่อบริษัทอื่นซึ่งได้จดทะเบียนแล้วก็ดีหรือพ้องกับชื่อซึ่งตั้งไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิฉบับอื่นอันได้จดทะเบียนแล้วก็ดีหรือคล้ายคลึงกับชื่อเช่นกล่าวนั้นจนน่าจะลวงให้มหาชนหลงไปได้ก็ดี ท่านว่าบุคคลผู้ที่มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะฟ้องเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เริ่มก่อการบริษัทก็ได้และจะร้องขอให้ศาลสั่งบังคับให้เปลี่ยนชื่อนั้นเสียใหม่ก็ได้
เมื่อศาลมีคําสั่งเช่นนั้นแล้ว ก็ต้องบอกชื่อซึ่งเปลี่ยนใหม่นั้นจดลงทะเบียนแทนชื่อเก่า และต้องแก้ใบสําคัญการจดทะเบียนด้วยตามกันไป
ที่มา .. ฝ่ายพิจารณาอนุญาตชื่อนิติบุคคล ส่วนบริหารการจดทะเบียน สํานักทะเบียนธุรกิจ โทร. 0 2547 4450 e–mail : nameit@dbd.go.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น