h1.post-title{ font-size:20px;}

วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีคนต่างด้าวร่วมลงทุนหรือมีคนต่างด้าวเป็นกรรมการ

จากเดิมบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่มีคนต่างด้าวถือหุ้นตั้งแต่ 40% ขึ้นไป กำหนดให้ผู้เป็นหุ้นส่วนของห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือบริษัทที่เป็นคนไทยทุกคน ต้องส่งหลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุนประกอบคำขอจดทะเบียน เช่น สำเนาสมุดเงินฝากธนาคารหรือสำเนาใบแจ้งยอดบัญชีธนาคาร 6 เดือน หรือเอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น หรือสำเนาหลักฐานที่แสดงแหล่งที่มาของเงินลงทุนหรือถือหุ้น หลักฐานดังกล่าว จะต้องแสดงจำนวนเงินที่สอดคล้องกับจำนวนเงินที่ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นนำมาลงหุ้นหรือถือหุ้นแต่ละราย แต่ถ้าคนต่างด้าวถือหุ้นไม่ถึง 40% ก็ไม่ต้องแสดงที่มาของเงินลงทุน แต่ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2556 เป็นต้นไป ห้างหุ้นส่วนจำกัดหรือบริษัทจำกัดที่มีคนต่างด้าวถือหุ้น หุ้นส่วนหรือผู้ร่วมก่อตั้งคนไทยทุกคนต้องส่งหลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุน (Bank Statemenet)
—————————————————————-
ประกาศสำนักทะเบียนธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์
ด้วยปรากฏว่ามีชาวต่างชาติประกอบธุรกิจบางประเภทโดยมิได้รับอนุญาต โดยจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจํากัดโดยให้คนไทยลงทุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) ดังนั้นเพื่อให้การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนจำกัดและบริษัทจํากัดที่มีคนต่างด้าวร่วมลงทุน หรือคนต่างด้าวเป็นกรรมการผู้มีอํานาจลงนามหรือร่วมผูกพันบริษัท เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น สํานักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง จึงได้ออกคําสั่งที่ 205/2555 ให้ผู้ขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทดังกล่าว ส่งเอกสารหลักฐานที่ธนาคารออกให้ เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยทุกคนประกอบคําขอจดทะเบียนโดยเอกสารดังกล่าว ต้องแสดงจํานวนเงินที่สอดคล้องกับจํานวนเงินที่นํามาลงหุ้นหรือถือหุ้นของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นแต่ละราย ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) กรณีห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจํากัดมีผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นที่เป็นคนต่างด้าวลงหุ้นหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจํากัดไม่ถึงร้อยละ 50 ของเงินลงหุ้นหรือทุนจดทะเบียน
(2) กรณีบริษัทจํากัดไม่มีคนต่างด้าวเป็นผู้ถือหุ้น แต่คนต่างด้าวเป็นกรรมการผู้มีอํานาจลงนาม หรือร่วมลงนามผูกพันบริษัท
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2556 เป็นต้นไป
………………………………………………………..
ฝ่ายบริหารทั่วไป สํานักทะเบียนธุรกิจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น