h1.post-title{ font-size:20px;}

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล (2)


ขอนำประเด็นอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่มีการยกเว้นและลดอัตราตามพระราชกฤษฎีกาฯ
(ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 มาปุจฉา - วิสัชนา
ปุจฉา มีหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อมอย่างไร
วิสัชนา หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับบริษัทหรือห้าง หุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อมเป็นไปตามมาตรา 6 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 530) พ.ศ. 2554 ดังต่อไปนี้
1. “บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลขนาดย่อม” หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ซึ่งมีทุนที่เรียกชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้าน บาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท
คำว่า “สินค้า” หมายความว่า ทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ที่มีไว้ เพื่อขายเท่านั้น อาทิ รายได้จากการขายสินค้าที่ซื้อหรือนำเข้ามาเพื่อขายหรือส่งออก หรือสินค้าสำเร็จรูปที่ผลิตเพื่อขาย ดังนั้น รายได้จากการขายอื่นใดจึงไม่นับรวมเป็นรายได้ในกรณีนี้ เช่น กำไรจากการขายทรัพย์สินที่มีไว้ในการประกอบกิจการ รายได้จากเศษซากวัสดุสำนักงาน เป็นต้น
คำว่า “บริการ” หมายความว่า การกระทำใดๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่าซึ่งมิใช่เป็นการขายสินค้า ซึ่งหมายความรวมถึง รายได้ค่าดอกเบี้ยรับ รายได้เงินปันผลหรือเงินส่วนแบ่งของกำไร หรือรายได้จากการให้บริการอื่นใดทั้งสิ้น
2. ให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิดังต่อไปนี้
(1) กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 150,000 บาทแรก สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2555 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2555
(2) กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 300,000 บาทแรก สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
3. ให้ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และคงจัดเก็บในอัตราดังต่อไปนี้
(1) กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เกิน 150,000 บาท แต่ไม่เกินหนึ่งล้านบาท ให้คงจัดเก็บในอัตราร้อยละ 15 ของกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2555 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2555
(2) กำไรสุทธิเฉพาะส่วนที่เกินหนึ่งล้านบาท ให้คงจัดเก็บในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ร้อยละ 23 ของกำไรสุทธิ สำหรับหนึ่งรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2555 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม 2555
(ข) ร้อยละ 20 ของกำไรสุทธิ สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีถัดมาที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป โดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นสุด จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง


bangkokbiznews.com โดย สุเทพ พงษ์พิทักษ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น