ตามที่กรมสรรพากรได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ฉบับที่ 196
เกี่ยวกับรูปแบบใบกำกับภาษีแบบใหม่ โดยจะผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2557
แต่ได้เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 1 มกราคม 2558
โดยสาระสำคัญในใบกำกับภาษีรูปแบบใหม่นี้จะต้องมีระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
ของผู้ซื้อหรือผู้รับบริการลงในใบกำกับภาษีด้วย
ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีข้อดีในแง่ของการตรวจสอบ
แต่ไม่สะดวกกรณีที่บุคคลธรรมดาจะซื้อสินค้าหรือบริการ
จะต้องแจ้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษี (ซึ่งเป็นเลขเดียวกับบัตรประชาชน)
ทางกรมสรรพากรจึงได้ออก ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฉบับที่ 199
ข้อ 7 ในกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนได้จัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา
86/4 แห่งประมวลรัษฎากร
ผู้ประกอบการจดทะเบียนจะต้องระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อ
สินค้าหรือผู้รับบริการซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ไว้ในใบกำกับภาษีนั้น
โดยข้อความดังกล่าวจะตีพิมพ์ จัดทำขึ้นด้วยระบบคอมพิวเตอร์
ประทับด้วยตรายาง เขียนด้วยหมึก พิมพ์ดีด
หรือทำให้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีการอื่นใดในลักษณะทำนองเดียวกันก็ได้ ทั้งนี้
สำหรับการจัดทำใบกำกับภาษีตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร ที่ได้จัดทำ
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป
โดยเนื้อหาที่สำคัญในประกาศฉบับนี้ คือ
ให้ระบุเลขประจำตัวผู้เสียภาษีเฉพาะผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่า
เพิ่มเท่านั้น ดังนั้นกรณีที่ไปซื้อสินค้า
และต้องการให้ออกใบกำกับภาษีในนามของบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้
ประกอบการจดทะเบียน ก็ไม่จำเป็นต้องแจ้งประจำตัวผู้เสียภาษีอีกต่อไป
เนื่องจากบุคคลธรรมดาไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
เพราะไม่สามารถนำภาษีซื้อ ภาษีขาย ไปหักลดหย่อนใดๆ ได้
จะใช้ได้แต่เพียงเพื่อเป็นหลักฐานในการจ่ายชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการเท่า
นั้น
ส่วนผู้ประกอบการที่จดทะเบียนมีสิทธิในการนำใบกำกับภาษีให้เครดิตภาษีได้
สำหรับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนก่อนที่จะรับใบกำกับภาษี
จะต้องแจ้งเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และตรวจสอบให้ถูกต้องด้วย
มิฉะนั้นจะไม่สามารถนำไปเครดิตภาษีได้
ที่มา businesssoft.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น